พร้อมมอบโปรบินจากสิงคโปร์ราคาเริ่มต้น 1350 บาทต่อเที่ยวบิน เพื่อเฉลิมฉลองการกลับมาให้บริการ 

สิงคโปร์ วันที่ 15 กันยายน 2565 - แอร์เอเชีย เอวิเอชั่น กรุ๊ป (AAAGL) บริษัทโฮลดิ้งด้านธุรกิจการบินภายใต้กลุ่ม Capital A เฉลิมฉลองการกลับมาให้บริการเที่ยวบินของสายการบิน ณ อาคารผู้โดยสาร 4 ท่าอากาศยานนานาชาติชางงี โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

เที่ยวบินแรกของแอร์เอเชียลงจอดที่อาคารผู้โดยสาร 4 ในเช้าวันนี้จากกัวลาลัมเปอร์ เวลา 08:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (หมายเลขเที่ยวบิน AK703) โดยเครื่องบินแอร์บัส A330 ลำตัวกว้างและบรรทุกสัมภาระเต็ม 100% เที่ยวบินขากลับ AK702 ออกจากสิงคโปร์ อาคารผู้โดยสาร 4 เพื่อเดินทางไปกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เวลา 09:10 น. ตามเวลาท้องถิ่น

ในฐานะกลุ่มสายการบินต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดตามสัดส่วนการให้บริการในสิงคโปร์ แอร์เอเชียมีสัดส่วนการให้บริการมากกว่าหนึ่งในแปดของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดผ่านอาคารผู้โดยสารของสนามบินชางงี ก่อนเกิดโรคระบาด แอร์เอเชียมีส่วนสนับสนุน 51% ของความจุที่นั่งโดยรวมของอาคารผู้โดยสาร 4 โดยการกลับมาให้บริการ ณ อาคารผู้โดยสาร 4 นี้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้สายการบินแอร์เอเชียขยายการให้บริการเพิ่มเติม เพื่อตอบสนองความต้องการที่มีอยู่อย่างล้นหลาม และที่สำคัญช่วยให้พวกเขากลับมาฟื้นตัวเต็มที่ในระดับความถี่ก่อนโควิด-19 ได้ในอนาคตอันใกล้

กลุ่มแอร์เอเชียให้บริการเที่ยวบินเข้าออกสิงคโปร์ โดยสายการบินทั้ง 4 สายในเครือ ได้แก่ แอร์เอเชียมาเลเซีย (รหัสเที่ยวบิน AK) แอร์เอเชียอินโดนีเซีย (รหัสเที่ยวบิน QZ) ไทยแอร์เอเชีย (รหัสเที่ยวบินFD) และแอร์เอเชียฟิลิปปินส์ (รหัสเที่ยวบิน Z2) โดยให้บริการเชื่อมต่อทั้งหมด 168 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยัง 12 จุดหมายปลายทางทั่วอาเซียน โดย ณ ปัจจุบันความถี่รายสัปดาห์ที่กลับมาให้บริการนี้นับเป็นประมาณ 60% ของการดำเนินงานของสายการบินที่ให้บริการ ณ อาคารผู้โดยสาร 4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 และมีแผนที่จะกลับมาฟื้นตัวสูงสุด 96% ภายในสิ้นปีนี้

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการย้านฐานปฏิบัติการกลับมาสู่อาคารผู้โดยสาร 4 แอร์เอเชียได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับบัตรโดยสารเที่ยวบินเพื่อเดินทางจากสิงคโปร์ในราคาเริ่มต้นที่เพียง 1,350 บาทต่อเที่ยวบิน เพื่อบินไปยังจุดหมายปลายทางยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ และภูเก็ต เปิดให้จองแล้วที่ airasia Super App หรือเว็บไซต์ www.airasia.com 

การย้ายการให้บริการกลับมายังอาคารผู้โดยสาร 4 ดังกล่าวได้รับการประกาศในงานแถลงข่าวที่สนามบินชางงีในวันนี้ นำโดย โทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม Capital A และ โบ ลิงกัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม แอร์เอเชีย เอวิเอชั่น กรุ๊ป AAAGL พร้อมด้วย โลแกน วิไลแธม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอร์เอเชียสิงคโปร์ ริยาร์ด อัสมัท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอร์เอเชียมาเลเซีย นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยแอร์เอเชีย  เวรานิต้า โยเซฟิน ซินากา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอร์เอเชียอินโดนิเซีย ริคกี้ อิสลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอร์เอเชียฟิลิปปินส์ และ คาเรน ชาน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของกลุ่มบริษัทแอร์เอเชีย

นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม Capital A กล่าวว่า เราไม่เพียงแต่ตื่นเต้นที่จะได้กลับมาบินอีกครั้ง แต่วันนี้เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้กลับมาที่อาคารผู้โดยสาร 4 ด้วยเช่นกัน ในฐานะศูนย์กลางฐานการให้บริการที่ใหญ่เป็นอันดับสามของเรา สิงคโปร์เป็นตลาดที่สำคัญสำหรับเรา จากการเริ่มต้นด้วยเที่ยวบินเพียง 2 เที่ยวบินต่อวันในปี 2551 เราเติบโตอย่างรวดเร็วและเพิ่มบริการเป็น 281 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ก่อนเกิดโรคระบาด เพื่อตอบสนองความต้องการจำนวนมากสำหรับการเดินทางที่มีอัตราการให้บริการที่เป็นมิตรสำหรับทุกคนในภูมิภาคนี้

เราภูมิใจที่ได้มีส่วนสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเดินทาง และมีบทบาทสำคัญในการทำให้เส้นทางกัวลาลัมเปอร์-สิงคโปร์เป็นหนึ่งในเส้นทางที่มีผู้โดยสารคับคั่งสูงสุดในโลก

วันนี้เราให้บริการ 168 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยัง 12 ปลายทางทั่วอาเซียน ซึ่งคิดเป็น 60% ของเที่ยวบินก่อนเกิดโควิด-19 ของเรา ภายในสิ้นปีนี้ ผมหวังว่าเราจะกลับมาให้บริการได้สูงใกล้เคียง 100% ด้วยเที่ยวบินที่มากขึ้น และการใช้เครื่องบินรุ่น A330 ที่มีลำตัวกว้างมากขึ้น

การกลับมาให้บริการ ณ อาคาร 4 ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในทุกด้านเปรียบเสมือนการกลับมาบ้าน ในขณะที่เรามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการให้คำปรึกษาและแบ่งปันแนวคิดในการออกแบบและการทำงานของอาคารผู้โดยสาร 4 การทำให้ประสบการณ์ในสนามบินของผู้โดยสารได้สัมผัสความเป็นดิจิทัลนี้มีความสำคัญมากกว่าที่เคย สอดคล้องกับการดำเนินงานของเราอย่างมาก  ซึ่งที่ผ่านมาเราได้สนับสนุนและมุ่งเน้นที่นวัตกรรมและประสิทธิภาพของการให้บริการมาโดยตลอด

“ทั้งการฟื้นตัวของการเดินทางระหว่างประเทศ ตลอดจนการลดข้อจำกัดด้านการเดินทางสู่สิงคโปร์และการย้ายไปยังอาคารผู้โดยสาร 4 เราเห็นความหวังว่าเราจะได้เห็นผู้โดยสารจำนวนมาก เทียบเท่ากับก่อนเกิดโรคระบาดอีกครั้งในเร็วๆ นี้ และคาดการณ์การเติบโตอย่างต่อเนื่องในการดำเนินงานด้านการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ของเราในภูมิภาคนี้ ด้วยเครือข่ายที่กว้างขวางของเราซึ่งครอบคลุมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียแปซิฟิก ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ที่ค่อนข้างแข็ง เราคาดว่าจะเห็นความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยังมาเลเซีย ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย และอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสนี้ที่เราได้มอบโปรโมชั่นพิเศษในราคาเริ่มต้นเพียง 1,350 บาทต่อเที่ยวบิน  

นายโบ ลิงกัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม AAAGL กล่าวว่า “สำหรับผมแล้วนี่เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก ในฐานะอาคารผู้โดยสารแห่งแรกที่สนามบินชางงีที่มีระบบ Fast and Seamless Travel (FAST) แบบ end-to-end ประสิทธิภาพที่ได้รับการปรับปรุงจึงสอดคล้องกับพันธกิจของเราที่จะรักษาไว้ซึ่งโครงสร้างต้นทุนที่ต่ำที่สุดและส่งมอบการเดินทางที่ราบรื่นให้กับผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังหมายความว่าเราสามารถส่งต่อความคุ้มค่าให้กับผู้โดยสารที่เลือกเดินทางกับเรา ตลอดจนจะเป็นการเพิ่มอัตราการเข้าใช้บริการสนามบินชางงีได้มากขึ้น ในปี 2562 เรามีผู้โดยสาร 4.5 ล้านคนและให้บริการด้วยเครื่องบินจำนวน 12 ลำในการบินเข้าออกจากสิงคโปร์ และเราตั้งใจที่จะขยายบริการของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อกลับสู่เป้าหมายที่เคยเป็น หรือมากกว่านั้นในอนาคต

“เราคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานของธุรกิจการบินของเราจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกตัวชี้วัดที่สำคัญในระยะอันใกล้ และเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ทำงานร่วมกับกลุ่ม  CAG เพื่อให้อัตราการบริการกลับมาถึงระดับก่อนเกิดโรคระบาด โดยหากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เราคาดว่าจะทำได้สำเร็จภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566” โบ กล่าว

จากสิงคโปร์ ปัจจุบันแอร์เอเชียมาเลเซียให้บริการ 106 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (เพิ่มขึ้นเป็น 120 เที่ยวบินจาก 22 กันยายน) ใน 7 เส้นทาง แอร์เอเชียอินโดนีเซียให้บริการ 34 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ใน 2 เส้นทางหลัก  ไทยแอร์เอเชียให้บริการ 24 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ใน 2 เส้นทาง  และแอร์เอเชียฟิลิปปินส์บิน 1 เส้นทาง 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งหลังจากนี้เราจะทยอยเพิ่มเที่ยวบินไป/กลับสิงคโปร์ตามปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

*ราคาโปรโมชั่น 1,350 บาท เป็นราคาเริ่มต้นต่อเที่ยวบิน ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมภาษีสนามบินและบริการเสริมอื่นๆ โดยเป็นไปตามข้อกำหนด

**โปรโมชั่นดังกล่าวสำหรับการสำรองที่นั่งตั้งแต่วันที่ 15 - 18 กันยายน 2565 เพื่อเดินทางตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2565 - 31 มีนาคม 2566